Grammar สำคัญจริงหรอ?
5:06:00 AM
เห่นนโลววววววว? 555555
ไม่ได้เขียน Blog นานมากมากกกกก และไม่ได้เขียนแนวจริงจังอย่างนี้ มาตั้งแต่ตอนเขียนเรื่อง Admission เมื่อหลายปีมาแล้ว
เนื่องจากใน Twitter โดนถามเข้ามาว่ามีความเห็นยังไงเรื่องของ "แกรมม่า" บางคนก็ว่า ไม่สำคัญหรอก พูดๆไปเถอะ ฝรั่งเจ้าของภาษาก็ยังมีใช้ผิดๆอยู่เลย แต่บางคนก็ว่า เฮ้ย.. ไม่สำคัญได้ยังไง นี่มันยุคไหนแล้ว ใช้ผิดแกรมม่ามันดูไร้การศึกษานะเฮ้ย!
ในฐานะที่นี่เป็นคนไทย ผ่านโรงเรียนไทย และป.ตรีมหาวิทยาลัยอินเตอร์ที่เมืองไทยที่มีคนไทย 90% ก่อนจะมาเรียนต่อที่อังกฤษ ทำธุรกิจที่อังกฤษ และ มีแฟนเป็นคนอังกฤษ
เขียนในทวิตเตอร์แล้วมันยาวม๊าก ขออนุญาตรวบรวมมาแสดงความคิดเห็น ส่วนตัวววววววว ผ่านมุมมองของคนที่ต้องเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็น second language ในนี้แทนละกัน และต้องขอ ออกตัว ก่อนเลยว่านี่ไม่เคยเคลมว่าตัวเองภาษาดี หรือ Grammar แน่นใดๆ
อะ เริ่มค่ะ!! สามมม สี่!
สำหรับนี่ คิดว่า แกรมม่า สำคัญในการสื่อสารให้ “ถูกต้อง” แต่สำหรับคนที่เริ่มต้นฝึกภาษา แกรมม่า “ยัง” ไม่สำคัญเท่ากับ “ความกล้าที่จะเริ่มพูดเริ่มใช้ภาษา”
ภาษาอังกฤษแบบที่ผิดแกรมมา หรือ Broken English ถ้ามันยังสื่อสารได้ในระดับนึง ก็ยังนับเป็นก้าวแรกที่ดีของคนที่ไม่เป็น จริงอยู่อาจจะไม่ได้ดูแพง ดูเอเลเก้น เท่าคนที่พูดถูกแกรมม่า แต่คนที่ยังพูดผิดแกรมม่าก็ไม่ควรโดนดูถูกว่าโง่
แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะหยุดอยู่ที่ Broken English แบบแกรมมาผิดๆตลอดปีตลอดชาติ ถ้าอยากจะเก่งไม่มีสูตรลัดค่ะ ก็ต้องหมั่นเอาแกรมม่าที่เล่าเรียนมาใช้ เอาตัวเองเข้าหาสื่อภาษาอังกฤษให้มากๆหมั่นใช้ หมั่นอ่าน หมั่นฟัง แล้ว “คิดตาม” ว่าทำไมเค้าถึงใช้ประโยคแบบนี้
Practice makes perfect
คือเรื่องจริง ยิ่งใช้จะยิ่งเป็น อารมณ์คล้ายๆ ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก 555555 ที่สำคัญคือ เวลาผิดแล้วมีคนท้วงติงก็ต้องน้อมรับแก้ไข จะได้พัฒนาต่อ ไม่ใช่บอกว่าใช้ผิดๆนี่แหละ ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ ชีวิตนี้จะคุยแต่กับพ่อกับแม่รึไง?
นี่เป็น attitude ที่ผิดมากกกกกก ด้อยพัฒนามากกกกกกก เป็นข้ออ้างของคนที่ไม่มีแรงจะพัฒนาศักยภาพตัวเอง แล้วพยายามจะมาบั่นทอนกำลังใจของคนที่กำลังจะได้ดีกว่า ใครเจอแบบนี้ อย่าไปฟึดฟัด ขอให้สงสารเค้า และก็เมินจากไป ไม่คู่ควร
Learn from your mistakes
อย่ากลัวที่จะผิด อย่ากลัวเสียหน้า พูดผิดใช้ผิด แล้วโดนแก้ไขนี่แหละ เป็นวิธีที่เรียนรู้ที่ดีที่สุด ยิ่งโดนตอกหน้าหักหน้านี่แหละ มันจำฝังใจได้ดีนัก ละจะได้ไม่ใช้ผิดอีก ดีกว่านั่งอ่านตำรา ท่องๆ จำๆ แล้วรอวันที่จะได้ขุดออกมาใช้ หรือถามๆ รอคำตอบป้อนมาอย่างเดียว
มาง่าย ก็ลืมง่าย
เคยเห็นมั้ย เวลาคนถามศัพท์ที่แบบเบสิกมากๆ กับคุณแอนดรูว หรืออาจารย์อดัม เค้าจะบอกให้ไปเปิดดิกฯดู เพราะถามๆ รอๆคนป้อนอย่างเดียว ไม่มีทางจำได้หรอก
เวลามีคนมาถามนี่ในเฟสฯ เยอะมากกก เหมือนกันที่ว่า จะเขียนอันนี้เป็นอังกฤษว่าอะไร ให้แปลให้ คือพีชจะพูดตลอดว่า ให้ลองเขียนมาก่อนแล้วจะแก้ให้ แบบนี้จะได้เห็น ว่าผิดตรงไหน จะได้เรียนรู้บ้าง ว่าเคยใช้มาผิดยังไง แบบที่ถูกต้องยังไง
นี่เองก็ไม่ได้เก่งมาตั้งแต่แรก (และตอนนี้ก็ยังไม่เก่ง) แต่โชคดีที่แรกๆ ก็จะมีรุ่นพี่เก่งๆคอยช่วยให้คำปรึกษา คอย proof grammar ให้ ละนางก็เหวี่ยงนะ จิกกัดตามสไตล์คนสนิท แต่นางสอนไปด้วยว่าผิดยังไง มันก็ทำให้เราเรียนรู้มาได้จนถึงทุกวันนี้
สรุปแล้วแกรมม่ามันสำคัญมั้ยเพ่?
สำหรับนี่ ความสำคัญของแกรมม่าขึ้นอยู่กับ เลเวลของคนใช้ภาษา คนส่วนมากที่ใช้ภาษาได้ดีและกล้าพูดได้ว่า "Grammar ไม่สำคัญ" คือมันละไว้ในฐานที่เข้าใจหลายๆอย่าง จริงๆมันเป็นคำย่อของ:
Grammar ไม่สำคัญ ที่จะต้องเป๊ะให้มากขนาดนั้นในการสื่อสารระดับ conversation ถ้าเราสามารถอย่างน้อยรู้ศัพท์พื้นฐานและพอวางมันในประโยคเบสิคได้
ใช้ถูกแกรมมาเป๊ะๆเป็นสิ่งดี ทำให้คนพูดดูมีการศึกษา ดูเอเลเก้น ดูแพง ดูเอดดูเข่ทเท่ท โดยเฉพาะถ้าในพวกงานเขียน academic หรือ professional แน่นอน แกรมมาถูกต้องเป็นเรื่องสำคัญ (มาก) แต่สิ่งพวกนี้ควรค่อยๆเกลา เมื่อผ่านการกล้าใช้ผ่านเลเวลเบสิกๆแล้ว ไม่ใช่อยู่ๆจะมาก้าวกระโดด เอาให้เป๊ะเว่อร์ๆ เลยมันก็ไม่ใช่ ของอย่างนี้มันต้องค่อยๆอาศัยการสังเกตุเรียนรู้กันไป สุดท้ายแล้ว จุดประสงค์ของการพูดภาษาอังกฤษได้ มันก็ไม่ใช่แค่ไว้โชว์ใครใครชื่นชม มันคือการสื่อสาร ใช้ Borken English มันก็ยังพอสื่อสารได้ แต่พอได้ระดับนี้แล้วก็ต้องไปต่อ
การสื่อสารให้ถูกต้องที่สุด ก็ยังต้องใช้แกรมม่าที่ถูกต้องอยู่ดี เหมือนกับที่ฝรั่งเองก็ต้องมาเรียนรู้แกรมม่าแบบไทย เพื่อที่จะพูดไทยให้คนไทยฟังเข้าใจ (แบบถูกต้อง) ให้ได้มากที่สุด
เวลาเค้าพูดว่าฝึกภาษาอย่าโฟกัสที่แกรมม่ามาก ไม่ได้หมายความว่าช่างแม่งไม่ต้องสนใจไม่รับรู้
แต่คือไม่ใช่ท่องจำ structure / definition จนไม่รู้วิธีเอาไปใช้จริง การศึกษาในห้องเรียนแบบไทยๆ ฝังหัวให้คิดว่าแกรมม่าเป็นสิ่งแยกต่างหากของภาษา ทั้งๆที่มันคือสิ่งที่ต้องมาด้วยกัน หลายคนเลยชอบงงว่า ทำไมแกรมม่าในห้องเรียนหนูห่วยจัง แต่เวลาฟังพูดกับฝรั่งหนูเข้าใจ
เพราะในห้องเรียนไทยส่วนใหญ่ชอบเน้นแต่แกรมมา structure subj + verb + บลาๆ เป็นยี่สิบแบบท่องไปสิ ทำสรุปเป็น formula สูตรเคมี คณิตศาสตร์อะไรยังงั้นเลย มี Definition ของแต่ละ tense ยิ่งอ่านก็ยิ่ง งง เวลาสอบก็สอบแกรมมา หนักหน่อยก็ทดสอบ definition ซึ่งจริงๆแล้ว ท่องจำไปก็คงเอาตัวรอดทำข้อสอบได้คะแนนดีๆแหละ แต่พอเอามาใช้ในชีวิตจริง สื่อสารจริง หลายคนก็พัง
คำถามที่นี่เจอเยอะมากกกกก มากมากมาก จนน่าตกใจคือ "พี่คะ หนูกลัวมากเลย สอบ IELTS เนี่ย หนูไม่เก่งแกรมมา จะมี part Grammar มั้ยคะ หนูไม่รอดแน่"
คือพูดตรงนี้เลยว่าข้อสอบวัดระดับภาษา ที่ใช้กันเป็นสากลเนี่ย ไม่มีหรอกมานั่งวัดแกรมม่า เค้าจะวัดกันที่สกิลการสื่อสาร ฟัง พูด อ่าน เขียน ซึ่งความรู้แกรมม่าที่มีเนี่ย มันต้องถูกเอามาประยุกต์ใช้จริงแล้ว
ถามว่าตอนเราเรียนรู้ภาษาไทยเราเอง เราทำแบบนี้รึเปล่า? ก็ไม่ ต้องมานั่งท่องมั้ย adverb ของไทยเราต้องอยู่หน้า adjective? ก็ไม่ แต่เห็นพูดไทยกันคล่องทุกคน Grammar ภาษาไทยถูกต้องแตกฉานกันหมด
ภาษาอังกฤษก็สามารถเรียนรู้แบบเดียวกันได้ เอาง่ายๆ อย่างประโยคที่ว่า I love you 99.99% ของคนที่คิดว่าตัวเองไม่เก่งภาษาอังกฤษ ก็พูดเป็นพูดได้หมด โดยที่ไม่รู้ว่า การที่รู้ว่าเรียง I-love-you ก็ถือเป็นหนึ่งในการใช้แกรมมาแบบเบสิคแล้ว แต่ถามว่า ที่คนส่วนใหญ่รู้และพูด I love you ได้เพราะเรียนหลักแกรมมา ในหนังสือหรือในห้องเรียนมั้ย? ก็ไม่
ที่รู้ก็เพราะคุณเคยได้ยิน ได้เห็น ผ่านหูผ่านตามาว่าเค้าใช้มาแบบนี้
แล้วสรุป ทำยังไงถึงจะเก่งภาษาอังกฤษคะเพ่?
สำหรับนี่ ต้องใช้ค่ะ ใช้ๆๆๆ แม่งเข้าไป ตอบแบบกำปั้นทุบดิน ไม่มีทางลัด เอาตัวเองเข้าหาภาษาเยอะ อยากพูดเก่งก็ต้องพูด อยากเขียนเก่งก็ต้องเขียน อยากฟังเก่งก็ต้องฟังเยอะ เธอจะติ่งฝรั่ง ติ่ง tumblr, youtuber ตามดู Instagram ทวิตเตอร์ฝรั่ง เอาตามที่สบายใจ เอาให้ได้เห็นได้อ่านได้เข้าหาภาษา ใครจะจิกกัดอย่าไปสน
อนาคตเราเป็นของเรา เราทำเองได้เอง คนที่ได้แค่จิกแคะ เค้าก็จะคอยแคะอยู่ข้างหลังคุณอยู่ตลอดในขณะที่คุณก้าวหน้าไปถึงไหนต่อไหน
พวกที่ตีโพยตีพายว่า เรียนรู้ภาษา จากการดูหนัง/ฟังเพลงภาษาอังกฤษ ไม่เห็นได้ผลเลย คือไม่ได้ให้ฟังเฉยๆ ทะลุผ่านๆไป ไม่เข้าใจช่างแม่ง (-____-" )
ต้องฟัง แล้ว คิดคิดคิดคิดคิด ตามไปด้วย ว่าอ๋อ เค้าใช้ประโยคแบบนี้ ในสถาณการณ์แบบนี้ เรียนรู้ไปด้วย ใจคอถ้าจะรอให้ครูมาป้อนๆ แล้วหวังว่าจะเข้าใจ ไม่รอดค่ะ
ตัวเองไม่ช่วยตัวเอง ก็ไม่ต้องหวังให้ใครช่วยค่ะ
อ่านหนังสือแกรมม่าเป็นกะตั้กๆ มันไม่พอ ไม่ใช่ว่าอ่านเยอะไม่พอต้องหาอ่านอีกหลายๆเล่มนะคะ แต่เราต้องเรียนแกรมม่าแล้วเอาความรู้ที่เรียนมา มาหัดสังเกตุรอบตัวบ้าง จำ แล้วก็ใช้ตาม ทุกวันนี้ นี่ก็ไม่ได้ใช้เป๊ะๆ ก็ยังเสพสื่อ เห็นประโยคนั้นนี้ มีที่ไม่เข้าใจบ้าง ก็ยังคงเรียนรู้ต่อไป
คนที่เป็นแล้วเก่งแล้ว ก็ไม่ควรจะดูถูกคนที่ไม่เป็น ก็ขอให้ช่วยกัน ไม่ใช่ว่าเอาแต่แบบ อุ้ยตลกจัง คนนี้ Broken English ถ้ามือไม่พาย ก็อย่าเอาเท้าราน้ำค่ะ ขอให้แก้ไขกันในเชิง constructive (กับคนที่ก็พร้อมจะรับ) ไม่ใช่สักแต่จิกกัดก่นด่าเอาแค่สะใจ แต่เวลาแนะนำก็ดูสถาณการณ์ด้วย ดูคู่สนทนาด้วย ไม่ใช่จะไปจับผิดไปเรื่อย ไม่งั้นจะกลายเป็นพวกที่ฝรั่งเค้าเรียกว่า Grammar Nazi
ส่วนอิพวก "ใช้ไม่เป็นแล้วยังกระแดะใช้ทำไม" นี่ไม่เรียก constructive comment ขอให้เลิกได้แล้ว จะ 2016 แล้ว ให้ประเทศชาติได้เดินหน้าบ้าง แล้วมันจะพีคกว่านี้ที่คนที่ไปจิกกัด ก็ใช้ผิดเหมือนกัน มันไม่คูล
ปล.
ส่วนถ้าถามว่า ความรู้ Grammar ของนี่ที่เป็นคนไทย เทียบกับ #สตีเฟ่นโอปป้า ที่เป็นคนบริทิช? ทำแบบทดสอบแกรมม่าภาษาอังกฤษเพียวๆ แบบทดสอบเด็กไทย นี่ชนะค่ะ แต่ถ้าให้ทดสอบความ fluent ในการสื่อสาร แน่นอนต้องยอมนางเจ้าของภาษาค่ะ :)
เลือกเอานะคะ อยากเก่งแค่บนกระดาษ แค่ thoery หรืออยากจะ theory พอประมาณ แล้วมาเน้นสนทนาสื่อสารให้ได้แบบเจ้าของภาษา
ปลล.
ไหนๆ ก็เขียนมาซะยาวแล้ว ขออนุญาตฝากร้านตัวเองหน่อยละกันค่ะ 55555 (ความเนียนนี้... )
สำหรับใครที่อยากฝึกฟัง ฝึกภาษาอังกฤษ แบบมีสาระบ้างไม่มีสาระบ้า (ฮา) ติดตามใน Youtube Channel ของนี่ได้ที่ youtube.com/c/SACROSSPEACHIIVLOG
ส่วนใครอยากมาเรียนต่อที่อังกฤษ ทั้งคอร์สภาษา และ ปริญญาตรี/โท ติดต่อมาได้เลยนะคะ facebook.com/gouni.th
รักนะ คนอ่าน ♥ :)
6 Comments
คิดถึงบล็อกนี้มาก ไม่ได้เสพนานมากกกก
ReplyDeleteเห็นด้วยกับพี่พีชมากค่ะ
ปกติเราก็ ไม่ได้เก่งไรมาก tense ไม่เก่ง grammar ไม่เก่ง
แต่เราพยายามฝึกและเรียนรู้จากเจ้าของภาษา
เสพค่ะ youtube tumblr หนัง นิยาย
เสพจนเราเข้าใจเองเลย ไม่ต้องมานั่งคิดแกรมม่า ก่อนพูด
เรียนรู้จากสิ่งที่เสพ มาพัฒนาตัวเอง
ปล.จากเด็ก ม.1 เขียนชื่ออังกฤษ ตัวเองไม่ถูก
จนตอนนี้ พูดปร๋อ ขอขอบคุณตัวเองที่เป็นติ่งฝรั่ง 55555555555555555
บัยยย์
ขอบคุณนะคะ คิดถึงคนอ่านเหมือนกันน xx
Deleteเค้าขอแก้คำผิดหน่อยเน้ออ อนุญาต ไม่มีสระอินะคะ
ReplyDeleteพอดีเห็นคนใช้ผิดเยอะเลยคำนี้
ขอบคุณนะคะ :) แก้ไขแล้วค่ะ
Deleteเพิ่งว่างอ่าน ชอบมากกกกกค่ะ โดยเฉพาะที่ว่าเรื่องคนอื่นชอบมาว่าที่เราใช้ broken english คือถึงส่วนตัวนี่ไม่ได้สนใจคนที่มาว่าแล้ว ฝึกของเราไป แต่มาอ่านที่พี่เขียนเหมือนพูดแทนใจเลยค่ะ โดนมากกก ชอบให้พี่เขียนยาวๆจัง อ่านในทวิตบางทีไม่สะใจ 555555 อ่อ อยากขอบคุณพี่พีชกับสตีเฟ่นโอปป้าด้วย ที่ทำให้หนูกลับมาฝึกการใช้ภาษาอังกฤษอีกครั้ง ขอบคุณมากๆนะคะ เป็นแรงบันดาลใจที่ดีมากๆเลย :)
ReplyDeleteปล.ยาวนิดนึง พอดีไม่เคยแสดงตัวในที่ไหนๆมาก่อน แต่อยากขอบคุณ แหะๆ
ปลล.สังเกตไม่มีสระอุนะคะ ^^
เข้ามาตามจากยูทูป สารภาพว่าชอบงานบล็อกมาก เพราะตัวอักษรบรรยายได้แจ่ม เริ่มจะหน่ายนิดๆกับvisual things. เป็นอีกคนที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการเขียนมาก ฝึกมันเข้าไป อ่านมันทุกอย่าง คิดตามทุกสิ่งและ ตามที่คุณพีชเขียนจริงอย่างมาก อ่านแกรมม่าแทบตายถ้าไม่เอ๊ะ ไม่อ๋อกับการใช้ อ่านเท่าบ้านก็ไม่ได้ผลค่ะ จะมาตามต่อนะคะ
ReplyDelete